ดาริโอ อโมเดออี ซีอีโอของ Anthropic สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ในนโยบาย AI และคัดค้านการวิพากษ์วิจารณ์

การสนับสนุนนโยบาย AI ของประธานาธิบดีทรัมป์: มุมมองของซีอีโอ Anthropic ในบริบทที่ซับซ้อน

ดาริโอ อาโมเดอิ (Dario Amodei) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Anthropic ซึ่งเป็นบริษัทผู้บุกเบิกด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้แสดงจุดยืนที่น่าสนใจเกี่ยวกับการกำกับดูแล AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงการสนับสนุนนโยบายด้าน AI ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ การสนับสนุนนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการถกเถียงอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับบทบาทของรัฐบาลในการจัดการกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI ขั้นสูง ซึ่งกำลังถูกผลักดันเข้าสู่กระแสหลักอย่างรวดเร็ว

ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC อาโมเดอิเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความไว้วางใจในภาคส่วนที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วนี้ เขาเชื่อว่าการมีกรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนและเข้มงวดเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการรับรองว่าเทคโนโลยี AI จะยังคงเป็นประโยชน์ต่อสังคมในภาพรวม และความเสี่ยงจากการใช้งานในทางที่ผิดหรือผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจจะถูกลดทอนลง

กลไกการสนับสนุนนโยบาย
การสนับสนุนของอาโมเดอิไม่ได้เป็นเพียงการสนับสนุนทางการเมือง แต่เน้นไปที่เนื้อหานโยบายโดยเฉพาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรอบการกำกับดูแลที่เสนอโดยรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่:

  1. การควบคุมการเข้าถึงโมเดลขั้นสูง (Access Control): ข้อเสนอนี้รวมถึงการจำกัดการเข้าถึง “โมเดลฐาน (foundation models)” ที่มีศักยภาพในการทำลายล้างสูง (high-consequence potential) โดยกำหนดให้ผู้สร้างโมเดลต้องลงทะเบียนกับรัฐบาลและเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็น การควบคุมนี้คล้ายคลึงกับการจัดการกับเทคโนโลยีที่มีความเสี่ยงสูงอื่นๆ เช่น อาวุธนิวเคลียร์หรือสารชีวภาพอันตราย เพื่อป้องกันมิให้เทคโนโลยีเหล่านี้ตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดี

  2. การเน้นย้ำด้านความปลอดภัยและจริยธรรม: อาโมเดอิเห็นด้วยกับหลักการที่ว่ารัฐบาลควรมีบทบาทในการกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัย (safety standards) และการประเมินความเสี่ยง (risk assessment) ที่เข้มงวดสำหรับโมเดล AI ที่มีกำลังสูง (powerful AI models) เพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนา AI ดำเนินไปในทิศทางที่สอดคล้องกับผลประโยชน์สาธารณะและค่านิยมทางสังคม

การผลักดันกลับต่อคำวิจารณ์
การแสดงจุดยืนของซีอีโอ Anthropic ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากบางฝ่ายในชุมชนเทคโนโลยี ซึ่งมองว่าการกำกับดูแลที่เข้มงวดอาจขัดขวางนวัตกรรมหรือเอื้อประโยชน์ต่อบริษัท AI รายใหญ่ที่มีทรัพยากรในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม อาโมเดอิได้ให้เหตุผลที่หนักแน่นเพื่อผลักดันกลับต่อการวิจารณ์เหล่านี้

เขาแย้งว่า “ความเสี่ยงที่แท้จริง” ไม่ใช่การชะลอความเร็วของนวัตกรรม แต่คือการละเลยความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจาก AI ที่ไม่มีการควบคุม “ถ้าเราไม่ควบคุม AI อย่างระมัดระวัง เราอาจเสี่ยงต่อการเผชิญกับผลลัพธ์ที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของสังคม” เขากล่าว

อาโมเดอิเน้นย้ำว่าการกำกับดูแลที่เสนอโดยรัฐบาลทรัมป์มีความสมดุล โดยไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การควบคุม AI ในทุกบริบท แต่เน้นไปที่การควบคุม “AI ระดับสูงสุด” หรือ “Superintelligence” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงสุดในการเปลี่ยนแปลง แม้ว่า Anthropic จะจัดอยู่ในกลุ่มผู้เล่นรายใหญ่ แต่เขายืนยันว่าการกำกับดูแลนี้เป็น “สิ่งที่ถูกต้องที่ควรทำ” เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของมนุษยชาติในระยะยาว

ผลกระทบทางธุรกิจและจริยธรรม
จุดยืนของ Anthropic สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดที่ว่าบริษัท AI ชั้นนำกำลังเริ่มรับผิดชอบมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์ของตน Anthropic ซึ่งเป็นที่รู้จักจากความมุ่งมั่นในด้านการวิจัยความปลอดภัย AI และการพัฒนา AI ที่เป็นมิตร (safe and beneficial AI) มองเห็นการกำกับดูแลของรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของ “การประกันความเสี่ยง” (risk insurance) สำหรับอนาคตของเทคโนโลยีนี้

โดยสรุปแล้ว การสนับสนุนนโยบาย AI ของประธานาธิบดีทรัมป์โดยซีอีโอของ Anthropic ชี้ให้เห็นถึงความสนใจร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในการสร้างเกราะป้องกันด้านความปลอดภัยรอบเทคโนโลยี AI ที่ทรงพลังที่สุด โดยมีเป้าหมายเพื่อนำทางนวัตกรรมของปัญญาประดิษฐ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในขณะที่ยังคงสามารถจัดการและบรรเทาความเสี่ยงในระดับชาติและระดับโลกได้

This Article is sponsored by Gnoppix AI (https://www.gnoppix.org)