การปรับโครงสร้างหน่วยงานปัญญาประดิษฐ์ของ Meta: การลดบทบาทที่ไม่จำเป็นและการมุ่งเน้นกลยุทธ์
บริษัท Meta แพลตฟอร์ม กำลังดำเนินการปรับโครงสร้างครั้งสำคัญภายในหน่วยงานปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยมีเป้าหมายเพื่อลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อนและเสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงานของโครงการ AI การเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์นี้ส่งผลให้เกิดการลดจำนวนพนักงาน AI และผู้รับเหมาในหน่วยงาน Reality Labs และ Facebook Reality Labs (FRL) รวมถึงทีมที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท
การลดจำนวนบุคลากรและความซ้ำซ้อนทางโครงสร้าง
รายงานระบุว่า Meta ได้ยกเลิกตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning - ML) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปมากกว่า 600 ตำแหน่ง การลดจำนวนบุคลากรครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการยกเลิกภาระงานที่ไม่มีประสิทธิภาพและมีลักษณะเป็นระบบราชการมากเกินไป (overly bureaucratic) ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความคล่องตัวในการพัฒนาโครงการ AI ที่กำลังดำเนินอยู่
พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหลักคือหน่วยงาน FRL ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาฮาร์ดแวร์สำหรับเทคโนโลยีโลกเสมือน (Virtual Reality - VR) และโลกเสมือนผสานโลกจริง (Augmented Reality - AR) รวมถึงทีมที่สนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์หลักของ Meta
การปรับลดบุคลากรในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาความซ้ำซ้อนขององค์กร ซึ่งแหล่งข่าวภายในระบุว่ามีวิศวกรและนักวิจัยจำนวนมากกำลังทำงานในโครงการที่มีความทับซ้อนกัน การยุบตำแหน่งงานเหล่านี้จะช่วยให้ทรัพยากรต่างๆ ถูกจัดสรรไปยังโครงการที่มีลำดับความสำคัญสูงและมีศักยภาพในการสร้างผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง
การมุ่งเน้นกลยุทธ์ AI ที่เข้มข้นขึ้น
การปรับโครงสร้างนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวมศูนย์ความพยายามในการพัฒนา AI ของ Meta โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมุ่งเน้นไปที่การสร้างแบบจำลองภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models - LLMs) และปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของทิศทางผลิตภัณฑ์ในอนาคต
แหล่งข่าวเผยว่า ผู้บริหารระดับสูงของ Meta ต้องการให้หน่วยงาน AI มีความยืดหยุ่นและเป็นอิสระในการดำเนินงานมากขึ้น โดยพนักงานที่ยังคงอยู่ในตำแหน่งจะถูกคาดหวังให้มีความรับผิดชอบที่ครอบคลุมและหลากหลายมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันของบุคลากรจำนวนมากในภาระงานที่แคบและเฉพาะเจาะจงเกินไป
วัตถุประสงค์หลักของการริเริ่มนี้คือการสร้าง “ชุดทักษะที่ครอบคลุม” (a comprehensive set of skill sets) ภายในทีมที่เล็กลงแต่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ Meta สามารถเร่งการพัฒนาเครื่องมือและเทคโนโลยี AI ที่สามารถบูรณาการเข้ากับผลิตภัณฑ์หลักต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น ชุดหูฟัง VR และแว่นตาอัจฉริยะ
การโยกย้ายบุคลากรเทียบกับการเลิกจ้าง
แม้ว่าจะมีการลดจำนวนสัญญาจ้างและตำแหน่งงานจำนวนมาก แต่แหล่งข่าวระบุว่า Meta พยายามที่จะช่วยให้พนักงานบางส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกตำแหน่งสามารถหางานใหม่ภายในทีม AI หรือทีมเทคโนโลยีอื่นๆ ของบริษัท ในทางตรงกันข้าม พนักงานที่เป็นผู้รับเหมา (contractors) ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะไม่ได้รับการต่อสัญญาจ้าง
การปรับโครงสร้างครั้งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นมาตรการลด “การขาดประสิทธิภาพในการทำงาน” (operational inefficiencies) ที่สะสมมาจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งความซ้ำซ้อนของงานได้ก่อให้เกิดความล่าช้าในการส่งมอบผลิตภัณฑ์
การดำเนินการที่สอดคล้องกับการลดต้นทุน
การลดจำนวนบุคลากรและการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้สอดคล้องกับมาตรการลดต้นทุนที่กว้างขึ้นของ Meta ซึ่งมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการจัดลำดับความสำคัญของการลงทุนในเทคโนโลยีที่ให้ผลตอบแทนสูง การลดจำนวนบุคลากรที่ไม่จำเป็นถือเป็นมาตรการเชิงรับผิดชอบในการบริหารจัดการทรัพยากร และเป็นก้าวสำคัญในการทำให้หน่วยงาน AI ของ Meta คล่องตัวและพร้อมสำหรับการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยี AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
แนวทางใหม่ของ Meta คือการสร้างทีม AI ที่ “บางลงแต่ฉลาดขึ้น” (leaner but smarter) โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันนวัตกรรมด้าน GenAI และ LLMs ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
This Article is sponsored by Gnoppix AI (https://www.gnoppix.org)