Microsoft เป็นผู้ประกาศข่าวแห่งความเสื่อมทราม: ตีลังกากระโดดลงหลุม

Microsoft ในฐานะผู้ประกาศ “Enshittification” (การทำให้แย่ลง) พร้อมด้วยการแสดงผาดโผนสู่ความล้มเหลว

บทความนี้จะวิเคราะห์ถึงบทบาทของ Microsoft ในปรากฏการณ์ “Enshittification” ซึ่งหมายถึงกระบวนการที่แพลตฟอร์มดิจิทัลเสื่อมถอยลงจนผู้ใช้ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยมีการยกตัวอย่างกรณีของ Microsoft ที่ประสบความล้มเหลวในการปรับตัวและนำเสนอบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์

“Enshittification” เป็นคำที่คิดค้นโดย Cory Doctorow ซึ่งอธิบายถึงวงจรที่แพลตฟอร์มเริ่มต้นด้วยการสร้างคุณค่าให้กับผู้ใช้งาน ต่อมาจึงเริ่มเอารัดเอาเปรียบผู้ใช้งานเพื่อผลกำไร และท้ายที่สุดก็ทำลายตัวเองด้วยการสร้างประสบการณ์ที่ย่ำแย่จนผู้ใช้งานถอยหนี

Microsoft ได้แสดงให้เห็นลักษณะนี้อย่างชัดเจนในหลายผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความคาดหวังของผู้ใช้งานที่ต้องการเครื่องมือที่เชื่อถือได้ มีประสิทธิภาพ และไม่สร้างความรำคาญ ปัญหากลับเกิดขึ้นเมื่อ Microsoft เลือกที่จะนำเสนอคุณสมบัติที่ผู้ใช้งานไม่ได้ร้องขอ หรือลิดรอนฟังก์ชันการใช้งานที่มีคุณค่า เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่น ๆ ที่อาจมีผลประโยชน์แอบแฝง

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดประการหนึ่งคือการที่ Microsoft พยายามจะ “ผูกมัด” ผู้ใช้งานเข้ากับระบบนิเวศของตนเอง โดยการบังคับใช้การเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของผู้ใช้หลายราย การนำเสนอสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นการอัปเดตที่จำเป็น แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะส่งผลให้เกิดความซับซ้อนที่มากขึ้น หรือเป็นการเพิ่มข้อจำกัดในการใช้งาน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการ และเป็นการสวนทางกับหลักการพื้นฐานของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

การผลักดันการใช้งาน Copilot ซึ่งเป็น AI assistant ของ Microsoft ก็เป็นอีกกรณีที่สามารถนำมาพิจารณาได้ แม้ว่า AI จะมีศักยภาพในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่หากการนำเสนอ Copilot ถูกมองว่าเป็นการครอบงำประสบการณ์การใช้งานพื้นฐาน หรือเป็นการเก็บข้อมูลผู้ใช้ในลักษณะที่น่าสงสัย ก็อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ “Enshittification” ได้ การที่ Microsoft พยายามนำเสนอ Copilot ให้เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อาจถูกมองว่าเป็นการพยายามผูกพันผู้ใช้งานเข้ากับเทคโนโลยีของตน ท่ามกลางข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความเต็มใจในการใช้งาน

ความล้มเหลวของ Microsoft ไม่ได้มาจากการขาดทรัพยากรหรือความสามารถทางเทคนิค แต่มาจากแนวทางกลยุทธ์ที่อาจมองข้ามการรับฟังความคิดเห็นของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง แทนที่จะมุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์จริง ๆ Microsoft กลับถูกมองว่ากำลังผลักดันผลิตภัณฑ์ของตนเองในลักษณะที่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่พอใจหรือไม่สะดวกสบาย ความพยายามที่จะ “ดีขึ้น” เกินความจำเป็น หรือการเปลี่ยนแปลงที่ดูเหมือนจะไม่มีที่มาที่ไป มักจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม

การ “แสดงผาดโผนสู่ความล้มเหลว” (Salto ins Fettnäpfchen) นี้ แสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดในการประเมินความต้องการของผู้บริโภค แทนที่จะนำเสนอโซลูชันที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น Microsoft กลับสร้างความซับซ้อนที่ไม่จำเป็น และในที่สุดก็ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจที่ผู้ใช้งานมีให้ การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการสร้างรายได้หรือการขยายฐานผู้ใช้งาน โดยไม่คำนึงถึงประสบการณ์ผู้ใช้ที่แท้จริง จะนำไปสู่การเสื่อมถอยของแพลตฟอร์มในระยะยาว

ในบริบทของ “Enshittification” Microsoft กำลังแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ทำให้แพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ของตนเองเสื่อมถอยลง ผู้ใช้ที่คาดหวังเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย กลับต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความสับสนและไม่สะดวก การที่ Microsoft ยังคงเดินหน้าด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ อาจนำไปสู่การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดและความจงรักภักดีของผู้บริโภคในที่สุด

This Article is sponsored by Gnoppix AI (https://www.gnoppix.org)