บริษัท OpenAI ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้แสดงความกังวลอย่างเป็นทางการต่อคณะกรรมการกำกับดูแลของสหภาพยุโรป (EU) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำนักงานว่าด้วยการแข่งขันทางการค้า (European Commission’s Directorate-General for Competition – DG COMP) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านดิจิทัล (Directorate-General for Communications Networks, Content and Technology – DG CNECT) เกี่ยวกับการกระทำที่อาจเป็นการจำกัดการแข่งขันของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่สามแห่ง ได้แก่ Google, Microsoft และ Apple
ความกังวลหลักของ OpenAI มุ่งเน้นไปที่การผูกขาดและการควบคุมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของผู้เล่นรายใหม่และเทคโนโลยี AI ในการเข้าถึงตลาดอย่างเป็นธรรม รายงานระบุว่าบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ใช้กลไกการดำเนินการที่หลากหลายเพื่อกีดกันหรือจำกัดการเติบโตของคู่แข่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านนวัตกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วของ AI
กลยุทธ์การกีดกันทางการค้าที่ถูกกล่าวถึง:
OpenAI ชี้ให้เห็นว่าบริษัทขนาดใหญ่ดังกล่าวใช้ความได้เปรียบจากสถานะความเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มหลักในสามลักษณะสำคัญ:
-
การควบคุมการกระจายแอปพลิเคชัน (App Distribution Control): Apple และ Google ควบคุมช่องทางการกระจายแอปพลิเคชันหลักผ่าน App Store และ Google Play Store ทำให้พวกเขามีอำนาจในการกำหนดเงื่อนไขการเข้าถึงผู้ใช้จำนวนมหาศาล ซึ่งรวมถึงการกำหนดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมหรือการจำกัดการแสดงผลของแอปพลิเคชัน AI ที่มาจากคู่แข่ง การกระทำนี้สามารถบั่นทอนความสามารถของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI ในการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
การผูกขาดระบบปฏิบัติการ (Operating System Bundling): การผูกรวมบริการหรือผลิตภัณฑ์ของตนเข้ากับระบบปฏิบัติการ (OS) หลักที่บริษัทเหล่านี้เป็นเจ้าของ (เช่น Windows, macOS, Android, iOS) ทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรมในการเข้าถึงผู้ใช้ตั้งแต่เริ่มต้น ผู้ใช้งานอาจถูกชี้นำให้ใช้บริการ AI ของเจ้าของแพลตฟอร์มแทนที่จะเลือกใช้เทคโนโลยีที่ดีกว่าจากคู่แข่ง
-
การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ (Cloud Infrastructure Dominance): Microsoft และ Google ต่างเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ผ่าน Azure และ Google Cloud ตามลำดับ การที่บริษัทเหล่านี้ควบคุมทรัพยากรด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการพัฒนาและปรับใช้โมเดล AI ขั้นสูง (เช่น GPU หรือชิปเฉพาะทางด้าน AI) อาจนำไปสู่การกำหนดเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมต่อบริษัท AI ขนาดเล็กในการเข้าถึงทรัพยากรเหล่านี้ หรือการที่พวกเขาใช้ข้อมูลที่ได้รับจากลูกค้าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์ AI ของตนเอง
ผลกระทบต่อตลาด AI และการแข่งขัน:
การเตือนของ OpenAI เน้นย้ำว่า การกระทำที่จำกัดการแข่งขันดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ต่อบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่ยังชะลอการพัฒนาด้านนวัตกรรม AI โดยรวมในสหภาพยุโรปด้วย หากบริษัทที่สร้างสรรค์เทคโนโลยี AI ใหม่ ๆ เผชิญกับอุปสรรคในการเข้าถึงตลาดและการแข่งขันที่เป็นธรรม ก็จะส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลง และนวัตกรรมที่แท้จริงอาจถูกจำกัดโดยผู้เล่นเดิมที่มีอำนาจเหนือตลาด
การยื่นเรื่องร้องเรียนนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ EU กำลังเร่งรัดการบังคับใช้กฎหมายสำคัญสองฉบับ ได้แก่ Digital Markets Act (DMA) และ Digital Services Act (DSA) ซึ่งมีเป้าหมายในการควบคุมอำนาจของ “ผู้เฝ้าประตู” (Gatekeepers) ในตลาดดิจิทัล OpenAI จึงกระตุ้นให้หน่วยงานกำกับดูแลของ EU คำนึงถึงกลยุทธ์ใหม่ ๆ ที่บริษัทเทคยักษ์ใหญ่กำลังใช้เพื่อรักษาอำนาจเหนือตลาด โดยเฉพาะในบริบทของเทคโนโลยี AI ที่มีการขยายตัวอย่างไม่หยุดยั้ง
แถลงการณ์นี้จึงถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนจากหนึ่งในบริษัท AI ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ว่าความเสี่ยงของการผูกขาดและพฤติกรรมการกีดกันทางการค้ากำลังคุกคามอนาคตของการแข่งขันเสรีในระบบนิเวศดิจิทัล และเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรปตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันอย่างเข้มงวดเพื่อเปิดโอกาสให้เทคโนโลยีและผู้ประกอบการใหม่ ๆ สามารถเติบโตได้
This Article is sponsored by Gnoppix AI (https://www.gnoppix.org)