รายงาน Hacktivate AI ของ OpenAI เรียกร้องสหภาพยุโรปให้เร่งรัดกระบวนการและสร้างความสอดคล้องของกฎระเบียบดิจิทัล
OpenAI บริษัทชั้นนำด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เผยแพร่รายงานเชิงลึกชื่อ “Hacktivate AI” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอแนะแนวทางที่ยุโรปจะสามารถปลดล็อกศักยภาพด้าน AI และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในระดับโลก รายงานฉบับนี้มิใช่เพียงการวิเคราะห์สถานการณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นข้อเสนอแนะที่ชัดเจนและเร่งด่วนสำหรับผู้กำหนดนโยบายในสหภาพยุโรป (EU) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจและสังคมผ่านนวัตกรรม AI
ความจำเป็นในการลดกฎระเบียบที่ซ้ำซ้อน
ใจความสำคัญของรายงาน Hacktivate AI คือการชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างกฎระเบียบปัจจุบันในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนดิจิทัลและ AI นั้นมีความซับซ้อน ล่าช้า และขาดความเป็นเอกภาพ “ความล่าช้าทางกฎหมาย” (Regulatory Lag) ในรูปแบบของกระบวนการที่ยืดเยื้อและกฎเกณฑ์ที่ทับซ้อนกัน ได้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการเข้าถึงตลาดอย่างรวดเร็วและการขยายตัวของนวัตกรรม AI จากยุโรป รายงานนี้เรียกร้องให้ EU ดำเนินการ “ตัด bureaucracy” (Cut Red Tape) อย่างจริงจัง เพื่อลดภาระที่ไม่จำเป็นต่อผู้ประกอบการและนักวิจัย
OpenAI เน้นย้ำว่ากฎเกณฑ์ด้านความปลอดภัย (Safety) และลิขสิทธิ์ (Copyright) ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งนั้น ควรได้รับการปรับให้มีความชัดเจนและเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วทั้ง 27 ประเทศสมาชิก EU การมีกฎระเบียบที่แตกต่างกัน (Fragmentation) ทั่วทั้งกลุ่มประเทศทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางกฎหมาย และเพิ่มต้นทุนการดำเนินงานของสตาร์ทอัพและธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการขยายตัวข้ามพรมแดน
การผนวกรวมและเอกภาพทางดิจิทัล
รายงานฉบับนี้สนับสนุนการสร้าง “ตลาดดิจิทัลเดี่ยว” (Digital Single Market) ที่เข้มแข็งและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในทางปฏิบัติ ด้วยการสร้างความสอดคล้อง (Harmonization) ของกฎระเบียบดิจิทัล แทนที่จะปล่อยให้แต่ละประเทศมีกฎเกณฑ์เฉพาะของตนเอง รายงานเสนอว่าการสร้างมาตรฐานที่ชัดเจนจะช่วยให้บริษัท AI สามารถมุ่งเน้นพลังงานไปที่การพัฒนาและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี มากกว่าการจัดการความซับซ้อนทางกฎหมายที่แปรผันไปตามพื้นที่
นอกจากนี้ Hacktivate AI ยังได้ให้ข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อการแก้ไขปัญหาทางสังคมที่สำคัญ (Grand Societal Challenges) เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และการดูแลสุขภาพ (Healthcare) โดยเน้นว่าหากยุโรปสามารถลดอุปสรรคทางกฎหมายได้ จะทำให้ภาคเอกชนสามารถนำเสนอโซลูชัน AI มาใช้ในการบริการสาธารณะได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
มุมมองต่อกฎหมาย AI Act
แม้ว่ารายงานจะไม่ได้คัดค้านความจำเป็นในการกำกับดูแล แต่ก็ชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดเกินไป เช่น กฎหมาย AI Act ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกฎระเบียบเหล่านั้นสร้างภาระให้กับ “โมเดลพื้นฐาน” (Foundation Models) หรือเทคโนโลยี AI ทั่วไปมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของนวัตกรรมในยุโรป ในขณะที่ภูมิภาคอื่น ๆ เช่น สหรัฐอเมริกาและจีนยังคงเร่งพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง
OpenAI เรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายของยุโรปใช้แนวทางที่ “ส่งเสริมความริเริ่มและกระตุ้นการแข่งขัน” (Pro-Innovation and Pro-Competitive) โดยการสร้างสมดุลระหว่างการคุ้มครองผู้บริโภคกับการอำนวยความสะดวกในการพัฒนาเทคโนโลยี การลดภาระทางกฎหมายที่ไม่จำเป็น และการสร้างช่องทางที่ชัดเจนและรวดเร็วสำหรับ “การทดสอบและปรับใช้” (Testing and Deployment) ของ AI คือกุญแจสำคัญที่ยุโรปต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้ตกขบวนในการแข่งขันระดับโลก
รายงาน Hacktivate AI จึงเป็นเอกสารเชิงนโยบายที่เน้นย้ำถึงความจำเป็นทางธุรกิจในการที่สหภาพยุโรปจะต้องเปลี่ยนกรอบความคิดจากการ “ควบคุม” ไปสู่การ “เร่งรัด” นวัตกรรม AI โดยการเปลี่ยนกฎระเบียบที่ซ้ำซ้อนให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนที่สอดคล้องและมีประสิทธิภาพ
This Article is sponsored by Gnoppix AI (https://www.gnoppix.org)