การขยายความร่วมมือทางปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของ Salesforce: เสริมศักยภาพระบบนิเวศด้วย OpenAI และ Anthropic
Salesforce ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ได้ประกาศการขยายความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยการดึงพันธมิตรที่มีชื่อเสียงอย่าง OpenAI และ Anthropic เข้ามาร่วมเสริมศักยภาพในระบบนิเวศของตนเอง การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Salesforce ในการรวม AI ที่ล้ำสมัยเข้ากับผลิตภัณฑ์หลัก เพื่อมอบความสามารถและประสิทธิภาพที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าองค์กร
การเสริมสร้างความเข้มแข็งของ Einstein AI
ความร่วมมือที่ขยายออกไปนี้มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของ Einstein ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ของ Salesforce ที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนการทำงานข้ามสายงาน (cross-functional operations) ภายในองค์กรต่างๆ ด้วยการผนวกเทคโนโลยี Generative AI ชั้นนำจาก OpenAI และ Anthropic, Salesforce สามารถนำเสนอแบบจำลองภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models - LLMs) ที่หลากหลายและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งสามารถปรับใช้งานให้สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจเฉพาะด้าน และเป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและการกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง OpenAI ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากความสำเร็จของโมเดล GPT, และ Anthropic ผู้พัฒนา Claude ซึ่งเป็น LLM ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความสามารถในการอธิบายผลลัพธ์ (explainability) จะร่วมกันเป็นแหล่งป้อนพลังสำคัญให้กับ Einstein Trust Layer, ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านความเชื่อมั่นและความปลอดภัยของข้อมูลที่สำคัญของ Salesforce โครงสร้างนี้ช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จาก LLMs ภายนอกได้อย่างปลอดภัย โดยที่ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของลูกค้ายังคงได้รับการปกป้องและไม่ถูกนำไปใช้เพื่อการฝึกฝนโมเดลของบุคคลที่สาม
การเข้าถึงโมเดลที่หลากหลายผ่าน Einstein Trust Layer
การเปิดให้เข้าถึงโมเดล AI ที่หลากหลายถือเป็นหัวใจสำคัญของการขยายความร่วมมือครั้งนี้ Salesforce ตระหนักดีว่าไม่มีโมเดล AI ใดที่ ‘เหมาะสมสำหรับทุกงาน’ (one-size-fits-all) ด้วยเหตุนี้ การรวมโมเดลจากทั้ง OpenAI และ Anthropic เข้ามา ทำให้ลูกค้าของ Salesforce มีทางเลือกที่กว้างขวางในการเลือกใช้ LLM ที่มีคุณลักษณะเฉพาะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกรณีการใช้งานต่างๆ เช่น:
- การปรับแต่งสำหรับการตลาดและการขาย: การใช้โมเดลที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหาเพื่อการตลาดเฉพาะบุคคล (personalized marketing content) หรือการสรุปข้อมูลการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (customer interaction summaries) อย่างรวดเร็ว
- การบริการลูกค้า (Customer Service): การใช้โมเดลที่เน้นย้ำความน่าเชื่อถือและความแม่นยำในการให้คำตอบและแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนผ่านช่องทางต่างๆ
ความสามารถในการสับเปลี่ยนและบูรณาการระหว่าง LLMs ที่แตกต่างกันนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปรับตัวของธุรกิจในโลก AI ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Einstein Trust Layer ทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่สำคัญ ที่ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างโมเดลต่างๆ เท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างการควบคุมข้อมูล (data governance) และการตรวจสอบย้อนกลับ (auditability) อย่างสมบูรณ์
นัยยะทางธุรกิจและตำแหน่งในตลาด
การขยายความร่วมมือกับ OpenAI และ Anthropic ตอกย้ำถึงตำแหน่งของ Salesforce ในฐานะผู้บุกเบิกในเชิงยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นการสร้าง “ระบบนิเวศ AI แบบเปิด” (open AI ecosystem) แทนที่จะจำกัดตัวเองอยู่กับเทคโนโลยี AI ที่พัฒนาขึ้นภายในองค์กรเท่านั้น กลยุทธ์นี้ช่วยให้ Salesforce สามารถ:
- เร่งความเร็วในการนำนวัตกรรมมาใช้: สามารถนำนวัตกรรม LLM ล่าสุดจากพันธมิตรชั้นนำมาใช้ได้อย่างทันท่วงที โดยไม่ต้องรอรอบการพัฒนาภายในที่ยาวนาน
- สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้านความปลอดภัย: การมอบความมั่นใจให้กับลูกค้าองค์กรว่าพวกเขาสามารถใช้ Generative AI ได้อย่างปลอดภัยและสอดคล้องกับกฎระเบียบ (compliance) ผ่าน Einstein Trust Layer
- มอบความคุ้มค่าสูงสุด (Value Proposition): การเสนอชุดเครื่องมือ AI ที่ครอบคลุมและปรับแต่งได้สูงสุด ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่ามหาศาลให้กับแพลตฟอร์ม CRM ของ Salesforce
ในโลกของธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (data-driven world) ความสามารถในการบูรณาการ Generative AI ระดับโลกเข้าสู่กระบวนการทำงานหลัก (core workflows) ไม่ใช่เพียงแค่ปัจจัยเสริม (add-on) แต่เป็นความจำเป็นเชิงกลยุทธ์ การผนึกกำลังกับผู้เล่นชั้นนำอย่าง OpenAI และ Anthropic นี้ ทำให้ Salesforce ก้าวขึ้นเป็นผู้นำที่ไม่เพียงแต่นำเสนอ CRM solution เท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มการขับเคลื่อนธุรกิจที่เสริมพลังด้วยปัญญาประดิษฐ์ที่น่าเชื่อถือและล้ำหน้าที่สุดอีกด้วย
This Article is sponsored by Gnoppix AI (https://www.gnoppix.org)