จิมิน เฉียน, นักต้มตุ๋นคริปโต ถูกตัดสินจำคุกเกือบ 12 ปี
จิมิน เฉียน (Zhimin Qian) หญิงชาวจีน วัย 34 ปี ถูกตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 11 ปี 10 เดือน ฐานฉ้อโกงและฟอกเงินจากการหลอกลวงนักลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้งเว็บไซต์ปลอมและการใช้กลยุทธ์การตลาดที่หลอกลวงเพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในแพลตฟอร์มคริปโตเคอร์เรนซีที่เธอสร้างขึ้น
ศาลนครนิวยอร์กได้ตัดสินว่าเฉียนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการโครงการ Ponzi ที่ได้ระดมทุนจากเหล่านักลงทุนจำนวนมากถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านแพลตฟอร์มชื่อ “E-Coin” และ “The Coin” โดยเว็บไซต์เหล่านี้อ้างว่าเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลและมีผลตอบแทนการลงทุนที่สูง การดำเนินงานดังกล่าวนับเป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก
กลโกงที่ซับซ้อนและการหลอกลวงแบบ Ponzi
เฉียนและผู้ร่วมขบวนการของเธอได้สร้างเว็บไซต์ปลอมขึ้นมา ซึ่งจำลองรูปแบบการทำงานของแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยใช้ชื่อที่คล้ายคลึงกับบริษัทที่มีชื่อเสียง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและหลอกให้นักลงทุนเชื่อว่าพวกเขากำลังลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีศักยภาพ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเธอยังได้สร้างบริษัทบังหน้าที่หลากหลาย เช่น บริษัทที่ปรึกษาด้านกฎหมายและบริษัทด้านเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนภาพลักษณ์ของแพลตฟอร์มดังกล่าว
รูปแบบการหลอกลวงนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ “Ponzi scheme” ซึ่งเป็นกระบวนการฉ้อโกงที่ผู้จัดการกองทุนจะนำเงินลงทุนจากนักลงทุนรายใหม่ไปจ่ายคืนให้กับนักลงทุนรายเก่า โดยไม่ดำเนินการลงทุนใดๆ ที่แท้จริง โครงข่ายนี้สามารถคงอยู่ได้ตราบเท่าที่ยังมีเงินทุนจากนักลงทุนรายใหม่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในท้ายที่สุดก็จะเกิดการล่มสลายเมื่อไม่สามารถหาเงินทุนใหม่มาทดแทนได้ ทำให้เหล่านักลงทุนสูญเสียเงินทั้งหมด
การใช้กลยุทธ์การตลาดที่หลอกลวง
เพื่อดึงดูดเหยื่อให้เข้ามาลงทุนในแพลตฟอร์มของเธอ เฉียนได้ใช้กลยุทธ์การตลาดที่หลากหลายและซับซ้อน เธอได้ว่าจ้างผู้มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดีย (influencers) จำนวนมาก เพื่อโฆษณาชวนเชื่อถึงผลตอบแทนที่สูงจากการลงทุน ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังได้ทำการโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความตื่นตัวและกระตุ้นความโลภของนักลงทุน
นอกจากนี้ เฉียนยังได้สร้างภาพลักษณ์ของความเป็นผู้เชี่ยวชาญและประสบความสำเร็จในวงการคริปโตเคอร์เรนซี โดยการปรากฏตัวในสื่อต่างๆ และกล่าวอ้างถึงความสำเร็จในการบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล กลยุทธ์เหล่านี้มีขึ้นเพื่อสร้างความไว้วางใจและทำให้เหยื่อหลงเชื่อว่าการลงทุนกับเธอจะนำมาซึ่งผลกำไรมหาศาล
การฟอกเงินและการปกปิดธุรกรรม
นอกเหนือจากการฉ้อโกงแล้ว เฉียนยังถูกตั้งข้อหาฟอกเงินอีกด้วย เธอและทีมงานได้พยายามปกปิดแหล่งที่มาของเงินที่ได้มาจากการหลอกลวง โดยการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารหลายแห่ง และใช้บริษัทบังหน้าต่างๆ เพื่อซุกซ่อนเส้นทางการเงิน สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและการดำเนินคดีตามกฎหมาย
การดำเนินคดีและบทลงโทษ
จากการสืบสวนของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐอเมริกา สามารถเชื่อมโยงการกระทำของเฉียนเข้ากับการหลอกลวงนักลงทุนจำนวนมาก และการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล การดำเนินคดีนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความพยายามของหน่วยงานราชการในการปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับโลกดิจิทัล
บทลงโทษจำคุกเกือบ 12 ปี ที่ศาลนครนิวยอร์กตัดสินสำหรับจิมิน เฉียน นับเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้ที่คิดจะกระทำผิดในลักษณะเดียวกัน การหลอกลวงในวงการคริปโตเคอร์เรนซีนั้นยังคงเป็นปัญหาที่แพร่หลาย และนักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการตัดสินใจลงทุน โดยควรศึกษาข้อมูลและตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มและผู้ให้บริการอย่างละเอียด ก่อนที่จะนำเงินของตนเองไปลงทุน
This Article is sponsored by Gnoppix AI (https://www.gnoppix.org)